ไฟไหม้หญ้าลามมาเกือบถึงบ้าน เผารถเก่าวอด 3 คัน เดชบุญเห็นทันแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลปากแพรก ระดมกำลังช่วยกันฉีดน้ำ ควบคุมเพลิงไว้ได้ไม่งั้น มูลค่าการเสียหาย หลายล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 เวลา 15.15 น. ของ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุ มีเหตุไฟไหม้ ที่ริมถนนเลี่ยงเมือง บ้านเลขที่ 159 หมู่ 3 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ชื่อ ร้านอะไรว่ะเนี่ย หน้าร้านรับทำป้ายตัวอักษร หลังร้านเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ พอได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลปากแพรก มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังไหม้ซากรถเก่า 3 คัน ที่อยู่หลังร้านบ้านเลขที่ 159 หมู่ 3 ตำบลปากแพรก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลปากแพรกจึงระดมกำลังช่วยกันฉีดน้ำ เพื่อระงับไฟ ใช้เวลาประมาณไม่ถึง ครึ่งชั่วโมงก็สามารถระงับไฟไว้ได้ มูลค่าความเสียหาย ก็ไม่มากนักเพราะควบคุมเพลิงไว้ได้ทัน ไฟเพิ่งเริ่มไหม้ลามมาถึงแค่ซากรถเก่ายังเข้าไม่ถึงบ้าน
ถ้าควบคุมเพลิงไว้ไม่ได้ค่าความเสียหายน่าจะหลายล้านบาท จากการสอบถาม นายสมชาย ว่องดีมีเจริญ เจ้าของบ้าน สาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ นายสมชายกล่าวว่า ตัวเองก็ไม่ทราบสาเหตุครั้งนี้ นั่งอยู่ในบ้านหน้าร้าน พอดีภรรยาตัวเองเดินมาหลังร้านเห็นไฟไหม้ก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำตรวจกับดับเพลิง
จากการตรวจสอบเบื้องต้น บริเวณหลังร้านเป็นที่เก็บซากรถเก่า ส่วนหน้าร้านขายของรูปปั้นไก่เครื่องปูนรูปสัตว์ต่างๆ และรับทำตัวอักษร ส่วนหลังร้านเป็นอู่เป็นซ่อมรถ และบริเวณดังกล่าวที่ไฟไหม้เป็นลานกว้างมีรั้วรอบและมีหญ้าแห้งขึ้น ต้นเหตุจากไฟไหม้หญ้าลามมาถึงรถที่จอด ซากรถเก่า จึงเกิดเพลิงไหม้รถทั้ง 3 คัน ที่โดนไฟไหม้เพราะมีอยู่คันหนึ่งมีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ค้างอยู่ในรถ จึงเป็นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟไหม้ลามไปทั้ง 3 คัน
แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ควบคุมเพลิงเป็นที่เรียบร้อยไม่ให้ลุกลามเข้าถึงบ้าน นายสมชาย ว่องดีมีเจริญ ยังสงสัยว่าเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่บ้านตัวเองมีรั้วรอบๆ แต่ไฟเกิดไหม้บริเวณในรั้ว แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพราะว่าความเสียหายไม่มาก เพราะเป็นรถเก่าที่จอดทิ้งไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำตรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลปากแพรกเมื่อทางเจ้าของบ้านไม่ติดใจเอาความ จึงได้เดินทางกลับ
พล ภูมิภาค นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์