ติดต่อโฆษณาได้ที่ 061-939-1959 ; 02-066-9495 title="ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซ่อมระบบแก๊ส ซ่อมรถยนต์ทุกชนิด ด้วยช่างที่เก่ง" target="_blank">

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้รายได้ของประชาชนและธุรกิจปรับลดลง หลายธุรกิจต้องปิดกิจการ คนจำนวนไม่น้อย ตกงาน ขาดรายได้ โดยกลุ่มคนที่เดือดร้อนที่สุด คือ คนที่มีหนี้เพราะมีรายได้ลดลง ในขณะที่ยังมีค่างวดที่ต้องผ่อนชำระทุกเดือน

ทนายสุทัศน์ Achieve Inter Law

      สำหรับคนทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับไฟแนนซ์ต่างๆ แล้วผ่อนไม่ไหว ผู้เช่าซื้อก็มักจะขาดส่งค่างวดรถติดต่อกัน 3 งวด และรอให้ไฟแนนซ์มายึดรถยนต์กลับคืนไป หากผู้เช่าซื้อทำเช่นนี้ ไฟแนนซ์จะนำรถยนต์ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ หากนำรถยนต์ไปขายทอดตลาด แล้วได้เงินไม่เพียงพอต่อมูลหนี้ตามสัญญา ไฟแนนซ์จึงมาฟ้องผู้เช่าซื้อให้รับผิดชอบส่วนต่างที่ยังขาด ซึ่งผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบกับค่าเสียหายในส่วนต่างที่ขาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม. การที่ไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญา เพราะผู้เช่าซื้อผิดสัญญาและติดตามเอารถคืน เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคแรก ไฟแนนซ์จึงไม่อาจบังคับให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าขาดราคารถยนต์เท่ากับค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ได้ เพราะจะมีผลเท่ากับบังคับให้ผู้เช่าซื้อปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อที่เลิกกันไปแล้วหากไฟแนนซ์ยังได้รับความเสียหายในส่วนราคารถยนต์ที่ขาด ไฟแนนซ์สามารถเรียกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคท้าย แต่ค่าเสียหายที่ไฟแนนซ์เรียกได้นี้คือ ค่าขาดราคาไปจากราคารถยนต์ที่แท้จริง(ราคารถปัจจุบันตามท้องตลาด)มิใช่ค่าขาดราคาไปจากราคาตามสัญญาเช่าซื้อ (ฎีกา  5363/2545)

ทนายสุทัศน์ Achieve Inter Law

       แต่ในทางกลับกัน หากผู้เช่าซื้อนำรถยนต์ไปคืนไฟแนนซ์เสียเอง ก่อนที่จะผิดนัดครบ 3 งวด หรือ การที่ผู้เช่าซื้อนำรถยนต์คืนไฟแนนซ์ และไฟแนนซ์ยอมรับรถยนต์ดังกล่าวคืน ถือว่าสัญญาเช่าซื้อระงับสิ้นสุดลง เพราะคู่สัญญาสมัครใจเลิกสัญญากันเองด้วยการส่งมอบรถยนต์กลับคืนเจ้าของ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 573  โดยที่ฝ่ายไฟแนนซ์รับรถไว้โดยไม่โต้แย้งมิได้บอกเลิกสัญญาก่อนถือได้ว่าคู่สัญญาสมัครใจยกเลิกสัญญาโดยปริยาย คู่สัญญาจึงได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมตาม ปพพ มาตรา 391 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 391 วรรคสาม ผู้เช่าซื้อไม่จำต้องรับผิดใช้ค่าขาดราคาและค่าติดตามทวงถามซึ่งฝ่ายโจทก์เรียกร้อง. (ฎีกาที่ 14324/2558 ). 

         หากไฟแนนซ์ยังนำคดีมาฟ้องผู้เช่าซื้อ ให้รับผิดส่วนต่างที่ยังค้างชำระ ส่วนใหญ่ผู้เช่าซื้อก็ไม่ให้ความสำคัญ ไม่ยอมไปศาล ไม่หาทนายไปสู้คดี และไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับไฟแนนซ์ที่ศาลเสียเอง ทั้งที่ตามกฎหมายแล้ว เราไม่ต้องรับผิดใดๆทั้งสิ้น จะต้องรับผิดก็เพียงค่าเช่าซื้อค้างชำระแต่ละงวดที่เรายังไม่ได้ชำระไฟแนนซ์ ก่อนวันที่จะนำรถยนต์ส่งมอบคืนเท่านั้น

         ดังนั้น หากผ่อนรถยนต์ไม่ไหว เอารถไปคืนไฟแนนซ์ ขาดเหลือตามสัญญาเช่าซื้อเท่าไหร่ เราไม่ต้องรับผิด หากไฟแนนซ์ฟ้องมา สู้คดีครับ !!

ทนายสุทัศน์ ขำวิไล บรรณาธิการบริหาร นสพ.ประชาไท

ทนายสุทัศน์ Achieve Inter Law
ติดต่อโฆษณาที่ 061-939-1959