ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หรือชะนี ที่ปลูกในพื้นที่ ป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้าน มีรสหวาน เนื้อหนาเนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน กลิ่นไม่รุนแรงเฉพาะตัว จึงทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ประวัติทุเรียนป่าละอู ทุเรียนป่าละอู เริ่มมีการนำเข้ามาปลูกในพื้นที่ป่าละอู ประมาณปีพ.ศ. 2527 ผู้ที่นำเข้ามาคนแรก คือนายพยุง พรายใย โดยนำพันธ์เม็ดใน ก้านยาว จากจังหวัดนนทบุรี และพันธุ์หมอนทอง จากระยอง มาทดลองปลูกจำนวน 100 ต้น ได้ผลผลิตที่ดีและแตกต่างจากต้นพันธุ์ที่นำมาจากทั้งสองจังหวัด
เนื่องจากความสัมพันธ์ กับพื้นที่เพาะปลูกที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มีพื้นที่เป็นเทือกเขาสลับที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่าน สภาพพื้นดินอุดมสมบูรณ์มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี มีความชื้นสัมพันธ์สูง อุณหภูมิต่ำในเวลากลางคืน ช่วงหน้าฝนจะมีน้ำไหลบ่าลงจากยอดเขานำเอาแร่ธาตุอาหารมาเติมให้กับพื้นที่เกษตร สภาพดินเป็นดินปนทราย น้ำไม่ขังนาน เหมาะแก่การปลูกทุเรียน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ทุเรียนป่าละอูมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่าง
ลักษณะเด่นของทุเรียนหมอนทองป่าละอู ทุเรียนลูกใหญ่กว่าที่อื่น เฉลี่ยน้ำหนักอยู่ที่ 1.5-5 กิโลกรัมต่อลูก ผลมีลักษณะเป็นวงรี ด้านใต้ผลจะแหลม ปลายหนามคม เห็นร่องพูชัดเจน โดยสีของเปลือกจะเป็นสีเขียวปนน้ำตาล ในส่วนของลักษณะเนื้อทุเรียน คือ มีรสหวาน เนื้อหนาเนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งมีความมันมากกว่าความหวาน กลิ่นไม่รุนแรง และมีรสชาติดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่ไม่ชอบทุเรียนที่กลิ่นแรง
และอยากให้หลายๆ คนที่ไม่ชอบทุเรียนเพราะกลิ่นแรง ลองเปิดใจทานทุเรียนป่าละอูดู อาจจะตรงจริตของคุณก็เป็นได้ เพราะว่ามีรสชาดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีเนื้อเนียน ละเอียด นุ่ม ละมุนลิ้น ออกรสมัน หวานนำ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบหวานมาก ผลกลมสวย หนามแหลม
หากมีโอกาสอยากให้ทุกท่าน ได้ลองลิ้มชิมรสกันดูบ้าง เผื่อใว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการส่งเสริมสินค้าการเกษตรของท้องถิ่นบ้านเรา ทุเรียนป่าละอู
สมบัติ พราหมณี นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์
Cr.นิธิการ พราหมณี