วันที่ 16 กรกาคม 2564 เมื่อเวลา 17.30 น. ณ สำนักงานบริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ จำกัด ซอยประชาชื่น 27 แขวงบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
จากการที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับยาเคอร่าว่าเป็น Fake News นั้น ดร.ภัทร หนังสือ (แพทย์แผนไทย) ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ จำกัด และเวชกรโอสถ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยายี่ห้อเคอร่าแต่เพียงผู้เดียว ได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับยา “เคอร่า” โดยยืนยันว่า ทางบริษัทฯ ไม่เคยให้ข่าวและโฆษณาชวนเชื่อว่าตัวยาดังกล่าวจะสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ แต่มีผู้ป่วยติดเชื้อ ได้ใช้ยาดังกล่าวแล้วมีอาการดีขึ้นหรือหายป่วยจึงมีการนำข้อมูลไปเผยแพร่ในสังคมออนไลน์
จากกระแสสังคมดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเข้าใจผิดในบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เป็นห่วง เกรงว่าประชาชนจะถูกหลอกลวงด้วยข่าวสารที่บิดเบือน จึงได้มีการกระจายข่าวว่ายาเคอร่าเป็น Fake News โดยที่ไม่เคยรับทราบถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีผลการศึกษาค้นคว้าและวิจัยหรือไม่อย่างไร
ทางบริษัทฯ ขอยืนยันว่า “บริษัทฯ ไม่เคยให้ข่าวหรือโฆษณาชวนเชื่อใดๆ ว่ายาเคอร่าสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้” แต่กลับเป็นผู้ป่วยที่ใช้ยาเคอร่าแล้วอาการดีขึ้นหรือหายป่วย ผู้ที่ใช้ยาเคอร่าแล้วไม่ติดเชื้อแม้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้ที่กระจายข่าวไปสู่บุคคลรอบข้างก็ตาม ซึ่งก็มีเป็นจำนวนไม่น้อย จนเกิดเป็นกระแสในสังคม Social online ในปัจจุบัน
ดร.ภัทรฯ เล่าถึงที่มาของตัวยาเคอร่า ซึ่งเป็นยาแผนโบราณที่มีส่วนผสมของสมุนไพรรวมกัน 9 ชนิด ประกอบไปด้วย แก่นจันทน์แดง แก่นจันทน์ขาว หัวคล้า รากฟักข้าว รากมะนาว รากสะแก รากกระทุงหมาบ้า เถาย่านางและบอระเพ็ด โดยระบุสรรพคุณ “แก้ไข้” ซึ่งทางบริษัทได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณทะเบียนเลขที่ G40/57 และมีทีมวิจัยในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และในหน่วยงานอื่นๆ เตรียมจะนำไปวิจัยเพื่อต่อยอดต่อไป
ดร.ภัทรฯ ชี้แจงเพิ่มเติม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาคของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการเป็นไข้ ทำให้ ดร.ภัทร์ฯ ได้นำยาเคอร่าไปมอบให้กับผู้ป่วยและผู้สัมผัสเชื้อในกลุ่มเสี่ยงให้กับชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เช่น ชุมชนบ้านครัวเหนือ ชุมชนบ้านพุสวรรค์ ชุมชนประชานิเวศน์ บ้านพักคนชรา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ชาวบ้านตำบลบึงซำอ้อ มูลนิธิต่างๆ รวมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ที่นอนรอเตียงอยู่ที่บ้าน ได้รับประทานยาเคอร่า พบว่าหลังจากผู้ป่วยได้รับประทานยาเคอร่าเข้าไปแล้ว ส่วนใหญ่มีไข้ลดลงและมีอาการดีขึ้นตามลำดับ สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการป่วย หากได้รับประทานยานี้เข้าไป จะช่วยทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันเชื้อที่มีการแพร่ระบาดได้ในระดับหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย ทีมวิจัยยาเคอร่า เปิดเผยว่า ผลการวิจัยในห้องปฏิบัติการพบว่า จากการวิจัยในหลอดทดลองของห้องปฏิบัติการชีวเคมีคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่พบว่ายาเคอร่ามีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ Main protease ที่ไวรัสโควิด-19 ใช้ในการขยายตัวเพิ่มจํานวนในร่างกายโดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าสาร Andrographolide ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจรถึง 100 เท่าซึ่งในฟ้าทะลายโจรผง มีสาร Andrographolide เพียง 1% โดยน้ำหนัก ดังนั้นยาเคอร่าจึงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ Main protease ลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ซึ่งผลดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในขั้นการทดลองในห้องปฏิบัติการและกำลังทดลองใช้ในผู้ป่วยโควิด-19 และกำลังรวบรวมผลวิจัยเพิ่มเติมต่อไป
และในช่วงเช้าวันเดียวกัน (16 ก.ค. 64) ดร.ภัทรฯ ได้เข้าพบกับคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับตัวยา รวมทั้งผลการวิจัยที่จะนำยาสมุนไพรมารักษาให้กับผู้ป่วย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกต่อไป
หลังจากได้ชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ดร.ภัทรฯ ประกาศแจกยาเคอร่า ให้กับประชาชนคนไทยจํานวน 100,000 กล่อง มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรค ลดอาการไข้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ขอรับยาผ่านช่องทางของบริษัท ซึ่งทางบริษัทฯ จะแจ้งวันและเวลาเปิดให้ลงทะเบียนในภายหลัง เพื่อลดความแออัดและลดการรอคอยในการมารับยาและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
รถเมล นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์
