หยิบข่าวมาคุย
ย้อนรอยชีวิต “สรยุทธ” จากกรรมกรข่าวพันล้านสู่เรือนจำ
สรยุทธ สัทุศนะจินดา เกิดเมื่อ 11 พฤษภาคม 2509 แม่ขายผลไม้ พ่อเสียตั้งแต่ 2-3 ขวบ จบจากโรงเรียน อำนวยศิลป์ เคยเกเรถูกจับ ไปอยู่บ้านเมตตา จบนิเทศศาสตร์ จาก ม.กรุงเทพ เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักข่าวที่สังกัดหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ในปี พ.ศ. 2531 เป็นนักข่าว ภาคสนามสายการเมือง 4ปี ไต่เต้าเป็น ผช.หัวหน้าข่าว และเป็นได้เป็น บก. จัดรายการวิเคราะห์ ข่าว ITV ยุคแรกๆ ต่อมา ทำรายการ คม ชัด ลึก ที่เดอะเนชั่น และทำรายการ เก็บตก จากเนชั่น ร่วมกับคู่หู กนก รัตน์วงศ์สกุล จนดังเป็น พลุแตก เริ่มเข้าสู่จุดพลิกพลัน โดย ไปทำงานกับ ช่อง 3 โดยไม่บอกผู้บริหารเดอะเนชั่น โดยเฉพาะ สุทธิชัย หยุ่น จึงถูกสั่งระงับ คอลัมน์และรายการTV ในเดอะเนชั่น ในที่สุด สรยุทฺธิ ลาออก หลังร่วมงานกัน นาน 15 ปี
เริ่มต้นใหม่กับช่อง 3 ด้วยรายการ เลื่องเล่าเช้านี้ ต่อมา มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผอ.อสมท. ชวนมาทำ ถึงลูกถึงคน ทางช่อง 9 ในสไตร์เล่าข่าวและการซักถามที่ไม่เหมือนใคร คนติดใจ จนเป็นกรรมกร ข่าว ร้อยล้าน จัดตั้งบริษัทขึ้นมาจำนวน 2 บริษัทเพื่อรับจ้างผลิต และสร้างสรรค์งานภาพยนตร์ หรืองานวิทยุโทรทัศน์ ในทุกรูปแบบ
ประกอบไปด้วย บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีนายสรยุทธ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในอัตราร้อยละ 80 โดยมีพี่สาว นางสาวสุกัญญา สุทัศนะจินดา และน้องสาว นางสาวสุภาวดี สุทัศนะจินดา ถือหุ้นอีกคนละร้อยละ 10
และ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีนายสรยุทธ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในอัตราร้อยละ 99.9 แม้จะเป็น 2 บริษัทเล็กๆ ที่มีทุนจดทะเบียนรวมกันเพียง 2 ล้านบาท ทว่าหากรวมรายได้นับตั้งแต่ปี 2547 – 2558 ทั้งสองบริษัทของเจ้าของฉายา “กรรมการข่าว” คนนี้สามารถทำกำไรไปแล้วกว่า 2,400 ล้านบาท
การจัดรายการ คุยคุ้ยข่าว ดึงคู่หูเห่า กนกรัตน์ มาช่วย ต่อมา กนก รัตน์วงศ์สกุล ถอนตัวจาก รายการ คุยคุ้ยข่าว อ้าง ผมทำงานกับคนโกงไม่ได้
ปี 2549 ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ อสมท.จับได้ว่า มีโมษณาส่วนเกิน แต่ไม่รายงาน พนักงานใช้น้ำยาลบ คำผิดปกปิดคิวโฆษณาส่วนเกิน ล้วรับสินบนจาก สรยุทธ์ สุดท้าย อสมท. ไม่ต่อสัญญา ถึงลูกถึงคน และ คุยคุ้ยข่าว แต่ สรยุทธ์ ก็ยังโด่งดัง ในช่อง3 และเป็นฮีโร่ข่าว เรื่อง น้ำท่วม ปี 2554
ปี 2555 ปปช. ชี้มูล สรยุทธ์ ยักยอกเงินค่าโฆษณา อสมท.
กุมภาพันธ์ 2559 ศาลชั้นต้น ตัดสิน สรยุทธ์ 13 ปี 4 เดือน ภายหลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดียักยอกทรัพย์เงินค่าโฆษณาของบริษัท อสมท.ที่ออกมาในช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2559 องค์กร วิชาชีพ สือ และสังคม เริ่มกดดัน ให้ยุติบทบาท หน้าจอ TV แต่สรยุทธ์ ก็เพิกเฉย ยังคง นั่งเล่าข่าว อย่างไม่ สนใจท้วงติง โลกโชเซี่ยลเริ่ม วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นและกดดันช่อง3 ถึงความเหมะสม ในการออกมาทำหน้าที่นำเสนอข่าว เมื่อถูกคำพิพากษาว่ามีความผิดของสรยุทธ์ และใช้ช่องทางสื่อของตนเองฟอกผิด ก่อนนำมาซึ่งการยุติบทบาททางด้านหน้าจอในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” “เจาะข่าวเด่น” รวมถึงเรื่อง “เล่าเสาร์อาทิตย์” ทางช่อง 3 ผลเริ่มกระทบ ต่อ ช่อง3 2 มีนาคม 2559 สรยุทธ์ จึงตัดสินใจยุติการจัดรายการ แต่ไม่ยอมหยุดราบคาบ โดยหันไปทำเฟสบุกแทน ซึ่งเฟซบุ๊กแฟนเพจ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” ที่เจ้าตัวเปิดขึ้นมาช่วงเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน และมียอดไลก์มากกว่า 8 แสน 4 หมื่นไลก์
29 สิงหาคม 2560 ศาลอุทรณ์พิพากยืน ตามศาลชั้นต้น สรยุทธ์ ถุกส่งตัวเข้าเรือนจำ และยังไม่ได้รับประกันตัว ในชั้นฎีกา และหากศาลให้ประกันตัว ปิดฉาก กรรกรข่าว ร้อยล้าน กลายเป็นผู้ต้องหาคดีโกงเงินรัฐวิสาหกิจ ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สรยุทธ์ จะเกาะกระแส หนีประกันตามคุณระเบียบ เหมือนนักการเมืองคดีทุจจริต คนอื่นๆหรือไม่ ดังคำพูดประชดประชันแกมหยิก ว่าคุกเมืองไทย มีไว้ขัง คนจน ไม่มีเงินหนี ไม่มีเส้นสาย
พจน์ บินหลา อันดามัน
