แชร์สนั่น!! เพจดัง “siriwanna” ชาวเน็ตรุมจวกยับโยก “มานัส” ซูเอี๋ยพระมานั่ง ผอ.สำนักพุทธ หวังกลบแผล เจ้าเก่าศน.เตือนให้ระวังจะเกษียณไม่สวย
หลังมีกระแสข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ก.ย.60 ที่ประชุมมีมติอนุมัติตามที่นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เสนอ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาก่อนหน้านี้ เพื่อขอรับโอนนายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คนใหม่ เพจเฟสบุ๊คดัง siriwanna jill – new โพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับการขอตัวนายมานัส ข้ามห้วยมานั่ง ผอ.สำนักพุทธ น่าจะไม่มีการสอบประวัติ หรือพระผู้ใหญ่สั่งมาในวันที่ไปกราบอวยพรวันเกิดสมเด็จฯวัดดังซึ่งดูแล้วน่าจะมาช่วยล้างผิดให้พระ และล้างผิดให้คนที่มีเอี่ยวในเงินทอน ชวนให้สงสัย โดยมีแฟนเพจจำนวนนับพันเข้ามาชม ขณะที่อีกนับร้อยได้แชร์ออกสู่สาธารณะท่ามกลางกระแสการแสดงความคิดเห็นอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนต่อกรณีดังกล่าว
ในวันนี้ วันที่ 6 ก.ย.60 เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปดูในเพจเฟชบุ๊คดังกล่าวพบว่า หลายคนต่างแสดงความเป็นห่วงรัฐบาล ทำนองใช้แมวไปปิ้งปลา ทั้ง 2 รมต. ที่คุมสำนักพุทธฯ ไม่ดำเนินการกับการทุจริตในวงการสงฆ์ที่มีการโกงกินแม้แต่เงินค่าหัวนักเรียน (โรงเรียนพระปริยัติธรรม) แมวกินปลาแล้วจะจับหัวขโมยได้หรือ ไล่คนดี อุ้มพระเลวทำลายพุทธศาสนา ขอแช่งให้ตกนรกหมกไหม้ และบ้างก็แนะนำให้ยุบมหาเถรฯทิ้ง กิจการสงฆ์ขอให้เป็นพระวินิจฉัยของสมเด็จพระสังฆราชและคณะบริหารที่ทรงแต่งตั้งโดยพระองค์ท่านน่าจะดีกว่า ขณะที่แฟนเพจ siriwanna jill – new รายหนึ่งเขียนชักชวนให้ช่วยกันตรวจสอบ แจ้งเบาะแส หลักฐานเพื่อกระชากผ้าเหลืองผู้ที่กัดกินบ่อนทำลายสถาบันสงฆ์ เงินทองทรัพย์สมบัติท่วมหูท่วมหาง ส่วนชาวบ้านยากจนทั่วบ้านเมือง คนห่มเหลืองมัวแต่วิ่งวุ่น เลียเอาตำแหน่งเอายศ โสโครกที่สุด พระดีไม่มีที่ยืน ควรกวาดล้างให้สะอาด
พระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อม กรุงเทพฯ อดีตศิษย์รุ่นพี่ University of Poona ของนายมานัส กล่าวว่า หากมีการโยกให้มาดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ.จริงก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะสมัยที่เรียนด้วยกันเห็นว่าท่านมีลักษณะเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ตนไม่รู้สึกเป็นห่วงเพราะท่านเป็นศิษย์พระ เป็นคนดี คงไม่ทำให้พศ.มัวหมอง ซึ่งต่างจากผอ.คนเดิมที่รัฐบาลส่งมือปราบมาโดยตรงเมื่อทำงานเสร็จสมบูรณ์ดีแล้วก็ย้ายออกไป อย่างไรก็ตาม การปราบทุจริตเงินทอนเชื่อว่าหากพระผู้ใหญ่สามารถชี้แจงได้เรื่องการทุจริตคงเบาบางลง อย่างเช่นกรณีวัดพนัญเชิง เจ้าอาวาสออกมายอมรับว่า เจ้าหน้าที่เสนอให้เองซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการโอนงบอุดหนุนให้กับพระอารามหลวง ส่วนวัดราษฎร์เล็กๆ อย่างวัดตะล่อมเขาคงไม่โอนงบอุดหนุนอย่างนี้มาให้
อดีตข้าราชการ ศน.ระดับสูงรายหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องทุจริตงบอุดหนุนเคยมีมาตั้งแต่สมัยที่ตนมีหน้าที่เป็นวิศวกร เคยบุกค้นถึงกุฏิเจ้าอาวาสเจอหลักฐานแล้วนิมนต์ให้ท่านลาสิกขาไปเงียบๆ ส่วนทุจริตเงินอุดหนุนด้านการศึกษาพระเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เพราะพศ.จัดสรรให้เป็นรายหัว มีความชัดเจนตรวจสอบได้ง่าย ในฐานะที่อดีตเป็นผู้เขียนแผนของบประมาณของศน. จึงเห็นว่าถ้านายมานัส ได้เป็นผู้บริหารในพศ.ก็ไม่ควรหลงอำนาจ ควรสร้างเกราะป้องกันตัวเองด้วยการตั้งคณะกรรมการแต่ละด้านขึ้นมาพิจารณางบอุดหนุนทั้ง 5 ด้านของพศ.ไม่ควรทำคนเดียว ขอให้ดูคณะกรรมการตำรวจเป็นตัวอย่างที่ไม่เคยมีการทุจริตงบประมาณ ถึงอย่างไรก็น่าเป็นห่วงเพราะนายสั่งท่านก็ต้องไปทั้งที่ไม่อยากไปเจอปัญหาหนัก
“เรื่องเงินทอนไม่ใช่เรื่องที่ใครจะตรวจสอบได้ง่ายๆ ถ้าโอนไปเข้าบัญชีวัดโดยตรงและห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่เดินสายเข้าไปประสานกับเจ้าอาวาสที่ได้รับงบอุดหนุน การทุจริตก็เกิดขึ้นไม่ได้ อยากขอเตือนให้ท่านผอ.พศ.คนใหม่สร้างเกราะปกป้องตัวเอง ถ้าไม่สร้างคงไม่รอดแน่ แล้วก็จะเกษียณแบบไม่สวย” อดีตข้าราชการระดับสูงศน. กล่าว
แหล่งข่าวจากวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ เปิดเผยด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตุเมื่อวันที่นายออมสิน รมต.ประจำสำนักนายกฯ เข้าไปกราบถวายพรเนื่องในงานครบรอบอายุวัฒนมงคล 92 ปี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ที่วัดปากน้ำ ก่อนมีการเสนอ ครม.ขอรับโอนนายมานัส ได้เห็นเจ้าหน้าที่ทางวัดเตรียมการค่อนข้างเป็นความลับ ดักเชิญให้เข้าพบกับพระกรรมการ มส.ชั้นรองสมเด็จรูปหนึ่งเพียงสองต่อสองเป็นเวลานาน ก่อนที่จะกลับออกมาเข้ากราบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ภายในกุฏิอย่างเปิดเผย จึงคาดว่าการเข้าพูดคุยครั้งนี้ยังเป็นผลให้รายชื่อตามโผตำแหน่งผอ.พศ.ที่มีนายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งกับเจ้าหน้าที่จาก ดีเอสไอ คนหนึ่งมีอันต้องตกไป
สุรเชษฐ ประชาไท รายงาน
