หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3 (สาขาเพชรบุรี) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ตามพระราชกฤษฎีกา ประกาศ พ.ศ. 2537 จำนวนทั้งสิ้น 185,000 ไร่ ภายใต้ชื่อโครงการจัดการพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในแผนยุทธการปราบปรามการขกระทำความผิดว่าด้วยการป่าไม้
-พื้นที่เป้าหมาย แปลงบุกรุกระหว่าง
ปี 2545-2557 และแปลงบุกรุกหลังปี 2557 รวมจำนวน 530 แปลง พื้นที่ 21,140.58 ไร่
-วัตถุประสงค์การดำเนินการ
1. เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
2. เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ต้นน้ำลำธารในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน)
3. เพื่อทวงคืนผืนป่าอนุรักษ์ตามนโยบายของรัฐบาล
4. เพื่อรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำ ลำธาร แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ในเขตรัษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) ไว้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
– ระยะเวลาการดำเนินงาน วันที่ 19-28 กุมภาพันธ์ และ 1-5 มีนาคม 2561
– พื้นที่เเหางนี้มีสัตว์ป่าที่สำคัญประกอบด้วย เสือโคล่ง เสือดาว ช้างป่า สมเสร็จ เลียงผา กระทิง
เก้ง กวางและสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย
– เงื่อนไขการดำเนินงาน แปลงบุกรุก ระหว่างปี 2545-2557 นำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสิทธิทำกิน ว่าบุคลใดเข้ามาทำกินปีใด และถ้าไม่มีบุกรุกเพิ่ม จนท จะนำเข้า ค.ป.ป. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป แต่ถ้ามีการบุกรุกเพิ่ม และซื้อต่อกันมา กรณีนี้ จะถูกดำเนินคดี ทันที โดยจนท เปิดพิสูจน์ภาพถ่ายดาวเทียม ย้อนหลัง ว่ามีการบุกรุกจริ ส่วน
แปลงบุกรุกหลังปี 2557 จำกุมดำเนินคดีทั้งหมดและตรวจยึดสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณบุกรุก จนท จะยึดดำเนินคดี ทั้งหมด และถ้าพบ เช่นไม้แปรรูป มี่มีที่มาไม่ถูกต้อง และ อาวุธปืน จะต้องถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ต่อไป วันที่ 27 ก.พ.2561 คณะ จนท ทุกฝ่าย โดยเฉพาะตำรวจสืบสวนจังหวัดประจวบจวบ และตำรวจสืบสวน บางสะพาน เจ้าร่วมตรวจค้น กับชุดพญาเสือ ฝ่ายปกครอง และทหาร พบ อาวุธปินสงคราม ปืนยาวคาบิ้น 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนคาบิ้น อีกกว่า 20นัด ตัวปืนบรรจุ กระสุนพร้อมใช้งาน แปลงสวนยางแปลงดังกล่าว วันนี้ขณะตรวจค้น ไม่พบเจ้าของและไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ ซึ่งพื้นที่ แปลงนี้ อยู่ไม่ห่างจากบ้าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทองมงคล อ บางสะพาน จ ประจวบฯ ในขณะเดียวกัน จนท ได้ตรวจยึดแปลงสวนยาง แปลงดังกล่าว เนื้อ 100กว่าไร่ มาด้วย
– หน่วยงานร่วมดำเนินการ
ในยุทธการ ครั้งนี้ ตามแผนงานรวม มีดังนี้
1.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี
2.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพรด้านทิศเหนือ(ตอนบน)
3.อช.แก่งกระจาน
4.อช.กุยบุรี
5.อช.น้ำตกห้วยยาง
6.อช.เขาสามร้อยยอด
7.กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147
8.สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน
9.สถานีตำรวจภูธรบางสะพานน้อย
10.กอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
11.หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก
12.ฝ่ายปกครอง อำเภอบางสะพาน
13.กองร้อยทหารพรานที่ 1402
14.กองบังคับการตำรวจภูธรภาค7 ชุดสืบสวน
15.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
16.อำเภอบางสะพาน
17.อำเภอบางสะพานน้อย
18.ชุดปฏิบัติการที่ 4 กองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
19.กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
20.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษาที่ 3 สาขาเพชรบุรี
21.หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง)
22.หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า รวมทั้งสิ้น 200 นาย
-อาศัยอำนาจในการปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัติป่าไม่ พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กองอำนวยการ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม หมู่1 ตำบลช้างแรก อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สนับสนุน สำนักการบิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่3 (สาขาเพชรบุรี) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ ตามพระราชกฤษฎีกาประกาศ พ.ศ. 2537 จำนวนทั้งสิ้น 185,000 ไร่ ภายใต้ชื่อ โครงการจัดการพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในแผนยุทธการปราบปรามการกระทำความผิดว่าด้วยการป่าไม้
-พื้นที่เป้าหมาย แปลงบุกรุกระหว่าง
ปี 2545-2557 และแปลงบุกรุกหลังปี 2557
รวมจำนวน 530 แปลง พื้นที่ 21,140.58 ไร่
-วัตถุประสงค์การดำเนินการ
1. เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
2. เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ต้นน้ำลำธารในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน)
3. เพื่อทวงคืนผืนป่าอนุรักษ์ตามนโยบายของรัฐบาล
4. เพื่อรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำ ลำธาร แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ในเขตรัษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) ไว้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
– ระยะเวลาการดำเนินงาน วันที่ 19-28 กุมภาพันธ์ และ 1-5 มีนาคม 2561
– พื้นที่เเหางนี้มีสัตว์ป่าที่สำคัญประกอบด้วย เสือโคร่ง เสือดาว ช้างป่า สมเสร็จ เลียงผา กระทิง
เก้ง กวางและสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย
– เงื่อนไขการดำเนินงาน แปลงบุกรุก ระหว่างปี 2545-2557 นำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสิทธิทำกิน ว่าบุคลใดเข้ามาทำกินปีใด และถ้าไม่มีบุกรุกเพิ่ม จนท จะนำเข้า ค.ป.ป. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป แต่ถ้ามีการบุกรุกเพิ่ม และซื้อต่อกันมา กรณีนี้ จะถูกดำเนินคดี ทันทีโดยจนท.เปิดพิสูจน์ภาพถ่ายดาวเทียม ย้อนหลัง ว่ามีการบุกรุกจริงส่วน
แปลงบุกรุกหลังปี 2557 จำกุมดำเนินคดีทั้งหมดและตรวจยึดสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณบุกรุก จนท จะยึดดำเนินคดีทั้งหมด และถ้าพบ เช่นไม้แปรรูป มี่มีที่มาไม่ถูกต้องและ อาวุธปืน จะต้องถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไปสรุปผลการดำเนินการ เฉพาะคดี ตรวจยึดไม้ ของกลางการกระทำผิด ตั้งแต่ วันที่ 18กพ-2มีนา นี้ คณะ จนท ทุกฝ่าย ได้ร่วมกัน ตรวจยึดดำเนินคดี กับเจ้าของแปลงที่อ้างสิทธิครอบครองที่ดิน แต่มีไม้แปรรูป ที่ผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง เป็นจำนวนมาก สรุปได้ตามนี้
1 ชนิดไม้ ที่ตรวจยึดมี
ไม้ยางนา ไม้จำปาป่า ไม้ไข่เขียว ไม้ตะเคียน และไม้ตาเสือ
2 ยึดไม้รวมทั้งสิ้น
จำนวน 543 แผ่น
3 คิดเป็นปริมาตร
รวม 9.20 ลบ.ม
4 คิดเป็นความเสียหายที่รัฐ ได้รับ คำนวนจากค่าภาคหลวง เป็นเงิน 138,057 บาน
ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิด ไม่สามารถ คิดเป็นความเสียหาย ทางด้านความมั่นคงหรือความเสียหาย ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ได้
5 ตรวจยึด ได้จากแปลง
บุกรุกสวยยางพารา และได้รื้อยึดมาเป็นของกลางได้ ทั้งหมด 5 หลัง
6 ดำเนินคดี 5 ราย
ทั้งนี้ในการตรวจยึด จนท.ยังตรวจยึด อุปกรณ์ที่เข้าไปทำลายพื้นที่ป่าและแสวงหาประโยชน์จากป่าได้อีก หลายรายการ เช่น
1.เครื่องปั่นไฟฟ้า 2 เครื่อง
2.เครื่องตัดหญ้า 4 เครื่อง
3.เครื่องยนต์yanmar 2 เครื่อง
4.เลื่อยมือ 2 เครื่อง
5.เครื่องพ่นยามอเตอร์ 3 เครื่อง
การดำเนินการ ยังไม่แล้วเสร็จ จะขยายเวลา ออกไป อีก 10 วัน ต่อจากนี้ไป
– หน่วยงานร่วมดำเนินการ ในยุทธการ ครั้งนี้ ตามแผนงานรวม มีดังนี้
1.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี
2.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพรด้านทิศเหนือ(ตอนบน)
3.อช.แก่งกระจาน
4.อช.กุยบุรี
5.อช.น้ำตกห้วยยาง
6.อช.เขาสามร้อยยอด
7.กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147
8.สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน
9.สถานีตำรวจภูธรบางสะพานน้อย
10.กอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
11.หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก
12.ฝ่ายปกครอง อำเภอบางสะพาน
13.กองร้อยทหารพรานที่ 1402
14.กองบังคับการตำรวจภูธรภาค7 ชุดสืบสวน
15.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
16.อำเภอบางสะพาน
17.อำเภอบางสะพานน้อย
18.ชุดปฏิบัติการที่ 4 กองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
19.กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
20.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษาที่ 3 สาขาเพชรบุรี
21.หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง)
22.หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่ารวมทั้งสิ้น 200 นาย
-อาศัยอำนาจในการปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัติป่าไม่ พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กองอำนวยการ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคีรีล้อม หมู่1 ตำบลช้างแรก อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สนับสนุน สำนักการบิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เกียติ เด็กบาง นสพ.ประชาไท