ภูมิแพ้ ไซนัส หวัด จาม หอบหืด ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและวิถีชีวิตของผู้ป่วย
-ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ได้รับ –มลพิษทางอากาศสูง ใกล้ขยะ เคมี ควันรถ -ผู้ที่มีห้องสุขาและห้องนอนอยู่ด้วยกัน กลิ่นซึ่งเป็นแก๊สพิษจากห้องน้ำ จะวนเวียนอยู่ในห้องนอน ห้องอยู่อาศัยตลอดเวลา –ผู้ทำงานเกี่ยวข้องกับสารเคมี -ผู้ที่รับประทานยาฆ่าเชื้อ/ ยาปฏิชีวนะติดต่อกันนานๆ -ผู้ที่ใช้ยาเสพติด ติดต่อกันนานๆ -ผู้ที่กินอาหารปนเปื้อนสารเคมี สารกำจัดศัตรูพืชโลหะหนัก สารพิษอย่างต่อเนื่องนานๆ รวมถึงอาหารที่ปรุงไม่ถูกวิธี เช่น ปิ้ง ย่าง รมควันติดต่อกัน -ผู้พักผ่อนน้อย/เครียด/ทำงานหนัก ปัจจัยต่างเหล่านี้ ล้วนแต่มีผลต่อภูมิต้านทานทำให้ภูมิต้านทานต่ำทั้งสิ้น
ดัชนี ชี้วัด ทางการแพทย์ไม่ชัด จะต้องดูจากอาการเท่านั้น
อาการ -แพ้อาหาร คัน ผืน ตุ่ม อาเจียน -แพ้อากาศ คัน ผืนแดง ตุ่ม จาม ไอ -เป็นหวัด คัดจมูกประจำ จาม -อักเสบในส่วนต่างๆ เป็นไซนัส -ป่วยง่าย ติดเชื้อง่าย
ปัญหาหลักส่วนใหญ่เกิดจากภูมิต้านที่ต่ำของคนคนนั้น บุคคลที่ภูมิต้านทานต่ำจะมีอาการดังกล่าว ภูมิต่ำเกิดจากการกินการอยู่ การกิน กินอาหารที่ปนเปื้อน มีสารเคมี สารพิษ สิ่งเสพติด อาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปและปรุงที่ไม่ถูกวิธีการอยู่ก็คือ อยู่ ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่สะอาด เต็มเป็นควัน สารเคมี กลิ่นเหม็น พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก ทั้งหมดจะส่งผลให้เกิดสิ่งสกปรก อนุมูลอิสระสะสมในเซล ในส่วนต่างๆของร่างกาย จนทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญที่ไม่สมบุรณ์ในเซล ส่งกระบวนการสร้างภูมิ สร้างฮอร์โมนผิดเพี้ยน เกิดภาวะภูมิต่ำขึ้นมา เมื่อภูมิต่ำก็ส่งผลให้เกิดการอักเสบ การเจ็บป่วยได้ง่าย
ภูมิแพ้เป็นอาการที่แสดงออกในทางกายถึงภูมิต้านทานต่ำ โดยเกิดปฏิกิริยาอักเสบหรือหลั่งสาร เช่น Histamine หรือตัวอื่นๆ ต่อสิ่งกระตุ้นหรือสารแปลกปลอม ซึ่งจะไม่เกิดในคนปกติ เช่น ฝุ่น เกสร เคมี สบู่ น้ำหอม กลิ่น อาหาร เสื้อผ้า อุณหภูมิ สูง ต่ำ ฯ สารแปลกปลอมอาจเข้า ทางปาก การหายใจ การกิน การสัมผัส
การรักษาปัจจุบัน ตรวจหาเหตุ โดยการใช้สิ่งกระตุ้นมาฉีดหา เหตุว่าเกิดจากสิ่งกระตุ้นตัวไหน ( Skin test) แล้ว หาทางวิธีหลีกเลี่ยงต่อสิ่งนั้น ทาครีม หยอดยา ขยายหลอดลม พ่นยา ฉีดยา หรือกินยาประเภท anti histamine (ยาเม็ดเหลืองที่ทำให้ง่วง) แต่สารก่ออักเสบมีหลายตัวไม่ใช่ Histamine เพียงตัวเดียว Anti Histamine จึงใช้ไม่ได้กับสารก่อการอักเสบตัวอื่นๆ การรักษาขึ้นอยู่กับว่าอาการจะปรากฏเป็นอะไร ยาบางอย่างมีสาร steroid เป็นส่วนประกอบ ใช้นานๆจะมีผลข้างเคียงมาก เช่น กระดูกบาง ผุ ความดันสูง และอื่นๆอีกมาก รูปแบบการรักษาแผนปัจจุบันต่อไซนัส หวัด ภูมิแพ้ หอบหืด จะเนินการรักษาที่ปลายเหตุหรือตามอาการ และบางอย่างมีผลข้างเคียงมาก หากเป็นยาเคมี ก็มีผลต่อไตโดยตรง หากเป็นยาฆ่าเชื้อ ก็ส่งผลทำให้ภูมิต่ำ รวมถึงทำลายจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้และส่งผลให้การดูดซึม ผลต่อการกำจัดเชื้อโรค การติดเชื้อได้ง่ายรักษาโดย Herbenzyme การจะแก้ไขปัญหา จะต้องมุ่งเน้นไปที่สาเหตุหลักคือที่เซล คือการกำจัดของเสีย สารพิษ อนุมูลอิสระ ในระดับเซล แล้วเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาผลาญเพื่อให้เกิดการสร้างการปรับและสร้างภูมิคุ้มกันให้ผุ้ป่วยนั้นสามารถที่จะสร้างภูมิในระดับเซล เพียงพอที่จะไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบต่อสารกระตุ้นและกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกไป
โพสต์โดย Herbenzyme Thailand เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน 2018
จุดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภูมิคือ
จุดแรก : คือที่ลำไส้จะต้องทำให้ลำไส้สะอาด แข็งแรง ขจัดเชื้อโรคได้ดี และระบบดูดซึมที่ดี นั่นคือการขับถ่ายดี โดยพวกเอ็นไซม์ต่างๆในผลิตภัณฑ์จะทำหน้าที่นี้
จุดที่สอง : ภายในเซล สารต้านอนุมูลอิสระและสารเมตาโบไลท์ในผลิตภัณฑ์ จะช่วยขจัดสารพิษ สารอนุมูลอิสระ สารตัวกลางต่างๆแล้วเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ สารอาหาร ทำให้กระบวนการเผาผลาญมีประสิทธิภาพขึ้นมา การเผาผลาญดีจะทำให้เกิดการสร้างภูมิ สร้างพลังงาน สร้างระบบฮอร์โมน ต่อมไร้ท่อ ทางเดินประสาทได้มีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนผสมต่างๆในเห็ดจะช่วยเรื่องการปรับสมดุลย์มีการปรับสมดุลย์ หากเป็นได้ดังนี้ ร่างกายจะก็สร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกเซลทั่วร่างกาย เพื่อสามารถที่จะกำจัดและทนต่อสิ่งกระตุ้นและ เชื้อโรคต่างๆได้ องค์ประกอบในอาหารเสริมเฮอร์เบนไซม์ ต่างๆ เช่น เห็ดรวมหลายชนิดที่ผ่านกระบวนทางชีวภาพที่อยู่รูปที่ร่างกาย นำไปใช้ได้ เห็ดเหล่านี้ จะมีสารเบต้า กลูแคนและเอ็นไซม์เมตาโบไลท์ที่ช่วยทั้งย่อยและเผาผลาญสารอาหารที่สูง ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมิเองได้ และต้านหรือลดการอักเสบพร้อมปรับสมดุลย์
ตัวอย่างสารใน HERBENZYME จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Flavonoids, Phenolics และอีกหลายตัว (วัดได้ด้วยค่า ORAC, SOD, catalase, Glutathione Peroxidase) กำจัดอนุมูลอิสระที่เป็นของเสียอันเกิดในเซล ในระหว่างกระบวนการเผาผลาญสารอาหารผลาญหรือจากที่กินเข้าไปด้วย ของเสียที่ขับออก ปัสสาวะก็จะมีของเสียน้อยลง ไตทำงานได้ง่ายขึ้นเมื่อ เซลและ ลำไส้ที่สะอาด แข็งแรง ก็จะสร้างภูมิให้ผู้ป่วยได้ การขจัดของเสีย ในลำไส้ เป็นอุจจาระ ในจากเลือดเป็น ปัสสาวะ และของเสียในระดับเซลก็จะถูกกำจัดออกเป็นก๊าซคาร์บอนไดซ์ออกไซด์ ต่อไป ในที่สุดร่างกายก็กลับมาเป็นปกติจากภูมิที่สูงขึ้น
ผลิตภัณพ์ ที่จะใช้จะประกอบด้วย ( ใช้อย่างต่ำ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย)
- BPL หรือ GNR จะประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารเมตาโบไลท์ ซึ่งทำหน้าที่ ขจัดสารพิษ ของเสียในระดับเซล เลือด ลำไส้ สารเมตาโบไลท์ จะช่วยการเผาผลาญและสร้างภูมิ
- ALG จะมีสารต่างๆที่เป็นสารต้านอนุมูลิสระ เบต่ากลูแคน จะช่วยเสริมการสร้างภูมิ และที่สำคัญการปรับสมดุลย์ที่จะช่วยเรื่องฮอร์โมนและทางเดินประสาท ทำให้ภูมิทำหน้าที่อย่างถูกต้อง
- ครีมทาภายนอกสมุนไพร จะลดการอักเสบตามผิวหนัง ลดอาการคัน เพื่อลดการทรมานจากอาการภายนอก เป็นการรักษาที่บรรเท่าอการทรมาณเบื้องต้น
ผลข้างเคียง
- อาจจะมีอาการทรมานที่จะมีมากขึ้นในช่วงเดือนแรก เช่น คันมากขึ้น รวมถึงอาจจะมีอาการมึนหัวบ้าง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมากขึ้น นี่แสดงว่าเป็นสัญญานการตอบสนองที่ดี ถือว่าภูมิได้เริ่มทำงานตามหน้าที่ของมันแล้ว ขอให้ทนสภาพทรมานนี้ให้ได้สัก 30 วัน (อาจน้อยกว่าหรือมากกว่า ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆด้วย)
ทีมข่าว นสพ.ประชาไท
ขอบคุณขอมูลดีๆ จาก HERBENZYME